ReutersReuters

ตลาดซื้อขายดอลลาร์/เยน:ดอลล์/เยนปรับลงหลังแตะจุดสูงสุดเกือบ 2 เดือน

สิงคโปร์--7 ต.ค.--รอยเตอร์

  • ดอลลาร์/เยนปรับลงในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. หรือจุดสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือนในระหว่างวัน โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องจากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่อยู่ในระดับแข็งแกร่งเกินคาดและจากความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐพุ่งขึ้น 254,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 140,000 ตำแหน่ง และถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. หรือครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 6 เดือน และทางกระทรวงได้ปรับทบทวนตัวเลขการจ้างงานของเดือนก.ค.และส.ค.ให้สูงขึ้นจากเดิม 72,000 ตำแหน่งด้วย นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังรายงานอีกด้วยว่า อัตราการว่างงานปรับลดลงสู่ 4.1% ในเดือนก.ย. จาก 4.2% ในเดือนส.ค. ส่วนค่าแรงเฉลี่ยต่อชั่วโมงในสหรัฐปรับขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค. ส่วนค่าแรงแบบเทียบรายปีพุ่งขึ้น 4.0% ในเดือนก.ย. หลังจากทะยานขึ้น 3.9% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายปี

  • ดอลลาร์/เยนอ่อนค่าลง 0.19% สู่ 148.43 เยนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 149.13 เยนในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. โดยดอลลาร์/เยนเพิ่งปิดตลาดสัปดาห์ที่แล้วด้วยการพุ่งขึ้น 4.59% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2009 ส่วนยูโรขยับลง 0.02% สู่ 1.0974 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากดิ่งลงแตะ 1.0950 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. ทางด้านดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินขยับลง 0.02% สู่ 102.46 ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 102.69 ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. หรือจุดสูงสุดรอบ 7 สัปดาห์ โดยดัชนีดอลลาร์ปิดตลาดสัปดาห์ที่แล้วด้วยการทะยานขึ้น 2.06% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2022 เป็นต้นมา หรือครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี ทั้งนี้ ปอนด์ขยับขึ้น 0.03% สู่ 1.3126 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากดิ่งลงแตะ 1.3070 ดอลลาร์ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. โดยปอนด์เพิ่งปิดตลาดสัปดาห์ที่แล้วด้วยการรูดลง 1.9% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2023 ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.19% สู่ 0.6804 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ ทางด้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ปรับขึ้น 0.14% สู่ 0.6165 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้

  • นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า เฟดไม่มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 6-7 พ.ย. โดยโอกาสที่ 0% ดังกล่าวปรับลดลงจากระดับ 31% ที่เคยคาดไว้ในช่วงเช้าวันศุกร์ และนักลงทุนก็คาดการณ์ในตอนนี้ว่ามีโอกาส 98.5% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.50-4.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 6-7 พ.ย. และมีโอกาส 1.5% ที่เฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.75-5.00% ตามเดิมในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 6-7 พ.ย. โดยนักลงทุนยังคาดการณ์อีกด้วยว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันราว 0.54% ในช่วงต่อไปในปีนี้ ทั้งนี้ นายคริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทเพพเพอร์สโตนกล่าวว่า "ดอลลาร์สหรัฐและตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อไป, บริษัทสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และจีนจะดำเนินมาตรการกระตุ้นทางการคลังและมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องขนาดใหญ่"

  • นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ในขณะที่อิสราเอลทิ้งระเบิดใส่เป้าหมายของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และทิ้งระเบิดใส่เขตฉนวนกาซาในวันอาทิตย์ ก่อนที่จะถึงกำหนดวันครบรอบ 1 ปีของเหตุการณ์โจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ต.ค. โดยรัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลเปิดโอกาสสำหรับทางเลือกทุกทางในการตอบโต้อิหร่านด้วย ทางด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 0.44% ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่เพิ่งปิดตลาดสัปดาห์ที่แล้วด้วยการพุ่งขึ้นกว่า 8% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2023 ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีปรับขึ้นจาก 3.850% ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี สู่ 3.981% ในช่วงท้ายวันศุกร์ และพุ่งขึ้นแตะ 3.992% ในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. หรือจุดสูงสุดในรอบสองเดือน

  • ปอนด์ดิ่งลงในสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า บีโออีอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรุนแรงยิ่งขึ้นในอนาคต แต่นายฮูว พิลล์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางอังกฤษกล่าวในวันศุกร์ว่า บีโออีควรจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปเท่านั้น--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

Masuk atau buat akun gratis selamanya untuk membaca berita ini

Berita lainnya dari Reuters

Berita lainnya