FX_IDC:XAUUSD   Emas / Dollar A.S.
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าราคาทองคำที่ปรับขึ้นมาในรอบนี้เกิดจากสงครามเย็นระหว่างจีนและสหรัฐ รวมไปถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด แต่ในมุมมองของผมเกิดจากจีนและรัสเซียทยอยซื้อทองคำเข้าพอร์ตอย่างต่อเนื่อง

รัสเซียนั้นทยอยซื้อทองคำเข้าพอร์ต 2,168.3 ตัน จนกลายเป็นประเทศที่สะสมทองคำมากเป็นอันดับ 5 ของ (มีการคาดการณ์ว่า หากรัสเซียยังสะสมทองคำเช่นนี้ รัสเซียจะแซงหน้าฝรั่งเศสและอิตาลีขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของโลก) และจีนมีทองคำสำรองอยู่ที่ 1,957.5 ตัน จีนเลื่อนขึ้นมาเป็นอันดับ 6 ของโลก เนื่องจากทั้งสองประเทศประกาศว่าต่อไปนี้ทั้งเงินรูเบิ้ลและเงินหยวนจะอิงทองคำแทนการอิงดอลลาร์สรอ. ส่งผลให้ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกในปี 2561 เข้าซื้อทองคำมากกว่า 450 ตัน รวมไปถึงบรรดากองทุนก็หันมาเพิ่มการถือครองทองคำ กองทุน SPDR (28/6/2562) ถือครองทองคำอยู่ที่ 794.04 ตัน และเพิ่มการถือครองทองคำ (30/7/2563) เป็น 1,241.76 ตัน

ในช่วง 4 ปีหลัง จีนเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่เหนือแอฟริกาและออสเตรเลีย

มีการคาดการณ์ว่าปลายปีจีนจะออกเงินหยวนดิจิทัล (DCEP) โดย 1 เงินหยวนดิจิทัลจะเท่ากับ 1 หยวน (ธนบัตร) ทำให้จีนจำเป็นต้องเพิ่มเงินทุนสำรองในรูปทองคำเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเงิน DCEP

ราคาทองคำคาดว่ายังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเหตุผล
1. อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ
2. ความนิยมในการถือครองเงินดอลลาร์สรอ.ลดลง
3. ธนาคารกลางหลายประเทศทั่วโลก และกองทุนเพิ่มการถือครองทองคำ
4. สงครามเย็นระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา
5. ต้นทุนในการผลิตทองคำออนซ์ละ 1,000 – 1,100 ดอลลาร์สรอ. ทำให้ราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นได้
Pernyataan Penyangkalan

Informasi dan publikasi tidak dimaksudkan untuk menjadi, dan bukan merupakan saran keuangan, investasi, perdagangan, atau rekomendasi lainnya yang diberikan atau didukung oleh TradingView. Baca selengkapnya di Persyaratan Penggunaan.