vixtimz

ELLIOTT WAVE PRINCIPLE

FX_IDC:XAUUSD   Emas / Dollar A.S.
ทฤษฏีอีเลียต(พื้นฐาน)
  • ในทฤษฏีนี้หลักการจดจำขั้นพื้นฐาน ให้จำว่ามีคลื่นหลักอยู่ สองประเภท คือ คลื่นส่ง(Impulse Wave) และ คลื่นย่อ(Corrective WaVe) ซึ่งคลื่นทั้งสองจะต้องมีการเคลื่อนที่ติดต่อกันเสมอถึงจะเป็นการเคลื่อนที่จบไซเคิลทั้งหมด ของคลื่นอีเลียต และในตลาดหุ้นการคลื่นที่ในรูปแบบคลื่นส่งจะมีความถี่ในเกิดอยู่บ่อยกว่าตลาดโฟเร็กซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดคลื่นลักษณะคลื่นย่อซึ่งทำให้เราต้องนำทฤษฏีคลื่นดังกล่าวมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เราเทรดอยู่รอดในตลาดได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน
    Wave Degree ในทฤษฏีนี้จะมีทั้งหมด 9 ประเภทหลัก โดยสำหรับการเทรดทั่วไปแล้วเราจะนับแค่ คลื่นซับมินูเอท ถึง ไซเคิลเท่านั้น ต่อมาจะเป็นการกล่าวถึงประเภทของคลื่นส่งหรืออินเพาเวฟ โดยจะแบ่งเป็นคลื่นส่งทั้งหมด 3 ประเภทหลัก โดยทั้งสามนี้ จะยึดกฏเหล็กข้อเดียวกันทั้งหมดคือ 1.คลื่นส่งจะได้เเก่ คลื่นลูกที่ 1,3,5 และเวฟย่อยของคลื่นส่งดังกล่าวจะต้องนับ1-2-3-4-5เท่านั้น 2.คลื่นส่งลูกที่ 2 จะไม่สามารถทับซ้อนจุดเริ่มต้นคลื่นลูกแรกได้ 3.คลื่นส่งลูกที่สามารถจะไม่ใช่คลื่นที่สั้นที่สุดหรือมีขนาดเทียบเท่า คลื่นส่งที่ 1และ5 4.คลื่นส่งลูกที่ 4.ไม่สามารถทับซ้อนกับคลื่นส่งลูกแรกได้ ยกเว้นในกรณีคลื่นเป็นรูปแบบ Diagnals 5.คลื่นที่ 5 ต้องมีสัญาณไดเวอเจนคอนเฟิมทุกครั้ง และมีขนาดเท่าคลื่นลูกแรก.
    1.คลื่นส่งประเภทแรกเรียกว่า Basic Impulse wave กฏในการดูตามกฏเหล็ก 5 ข้อทุกประการ 2.คลื่นส่งประเภทต่อมาเรียกว่า Impulse with extension เป็นการยืดคลื่นให้มีความยาวมากกว่าปกติ โดยจะเกิดในเวฟ 1 3 5 เวฟใดเวฟหนึ่งเท่านั้นในตลาดส่วนใหญ่มักจะเกิดที่เวฟสาม 3.คลื่นต่อมาเรียกว่า Diagnals มีทั้งหมดสองประเถทย่อย คือ Leading Diagnals ที่จะเกิดเฉพาะต้นคลื่น อย่างเวฟแรก หรือ เวฟAเท่านั้น และ Ending Diagnals ที่จะเกิดกับคลื่นส่งและคลื่นย่อลูกสุดท้ายเท่านั้น อย่างเวฟห้า หรือ เวฟCเท่านั้น โดยหากเกิดกับคลื่นย่อ จะเรียกรูปแบบคลื่นย่อว่า Zigzagนั่นเอง.

    คลื่นย่อคือคลื่นที่มีความซับซ้อนในการนับและใช้เวลาการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อดูว่าเป็นคลื่นย่อรูปแบบใด เราจะนับคลื่นย่อด้วย ตัวอักษร A,B,C หรือ W,X,Y หรือ W,X,Y,X,Z โดยคลื่นย่อโดยทั่วไปจะมีทั้งหมด 5 ประเภท โดยประเภทแรกมีโอกาสเกิดในตลาดมากที่สุดเราเรียกว่า Zigzag จะเกิดหลังจบคลื่นส่งไปแล้ว มีลักษณะโครงสร้างคือ 5-3-5 ต่อมาเป็นรูปแบบFlat จะมีโครงสร้างในการนับคือ 3-3-5 ซึ่งมีสามลักษณะย่อย ได้แก่ Regular Flat วิธีการสังเกตคือคลื่นB เกิดใกล้จุดเริ่มต้นของคลื่น A และคลื่นC จบต้องมีสัญญาณไดเวอเจนและจบใกล้คลื่น A ประเภทที่สองคือ Expanded Flat วิธีสังเกตุคือ คลื่นB จะเกิดสูงกว่าจุดเริ่มต้นคลื่นA และคลื่นC จะจบลึกกว่าคลื่นA และมีสัญญาณไดเวอเจนทุกครั้ง และRunning Flat วิธีสังเกตุคือมีลักษณะคล้ายRegular Flat แต่คลื่นC จะจบตื่นกว่าเวฟ A มาก ต่อมาจะเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมหรือTriangle ซึ่งมีการแบ่งลักษณะออกเป็นทั้งหมด 8 ประเภทโดยแยกทั้งขาขึ้นและขาลง มีโคราสร้าง3-3-3-3-3 ในการนับ โดยเกิดเฉพาะคลื่นส่งที่ 4 และคลื่นย่อ Bเท่านั้น ต่อมาจะเป็นเคลื่อนย่อที่จะใช้ zigzag flat triangle มาผสมผสานรวมกัน ซึ่งจะมีความยากในการนับเป็นอย่างมาก จะแบ่งเป็นสองประเภทหลักคือ Double Three และ Triple Threeซึ่งจะมากล่าวเจาะลึกต่อไปครับ
Pernyataan Penyangkalan

Informasi dan publikasi tidak dimaksudkan untuk menjadi, dan bukan merupakan saran keuangan, investasi, perdagangan, atau rekomendasi lainnya yang diberikan atau didukung oleh TradingView. Baca selengkapnya di Persyaratan Penggunaan.